นโยบายความเป็นส่วนตัว

             บริษัท จัสท์ คาร์ จำกัด (บริษัท) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับหลักการพื้นฐานของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล คือ หลักความจำเป็น ความได้สัดส่วน และการเคารพสิทธิขั้นพื้นฐานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามรัฐธรรมนูญ และมาตรฐานสากล จึงได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและสาธารณชนรับทราบและเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ หลักการ และมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อกำหนดกรอบการให้บริการและการเสนอขายผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่แล้วหรือจะมีขึ้นต่อไปในอนาคต ของบริษัทฯ เพื่อให้พนักงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องของบริษัทฯ ยึดถือและปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) และมาตรฐานที่กำหนดไว้

             นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของ บริษัทฯ จะใช้กับการดำเนินการไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ หรือบริการที่มีอยู่แล้วหรือจะมีขึ้นต่อไปในอนาคต ของบริษัทฯ ซึ่งได้มีการนำเสนอผ่านทางแพลตฟอร์มของบริษัท ฯ และหมายความรวมถึงช่องทางการเข้าถึงผ่านทางเว็บไซต์ หรือผ่านแอปพลิเคชันด้วยโทรศัพท์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือด้วยวิธีการอื่นใด โดยนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ได้กำหนดวิธีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ผู้สมัคร พนักงาน และผู้ใช้บริการ ประกอบกับได้อธิบายเกี่ยวกับรายละเอียดข้อมูลการเก็บข้อมูลส่วนตัวบุคคล วัตถุประสงค์การนำไปใช้ และนโยบายฉบับนี้ ยังมีผลใช้บังคับกับพนักงานภายในบริษัท ฯ และกลุ่มบริษัทฯ ด้วยเช่นกัน

             ทั้งนี้ โปรดอ่านนโยบายฉบับนี้ด้วยความระเอียดรอบคอบ เนื่องจากนโยบายฉบับนี้ชี้แจงว่าบริษัทฯ ได้ทำการเก็บ รวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยวิธีการอย่างไรบ้าง เพื่อรักษาผลประโยชน์และความเป็นส่วนตัวของท่าน

   1. นิยามความหมาย

  1. บริษัทฯ หมายถึง บริษัท จัสท์ คาร์ จำกัด
  2. กลุ่มบริษัทฯ หมายถึง บริษัทลูก บริษัทในเครือ หรือบริษัทในกลุ่ม ซึ่ง บริษัท จัสท์ คาร์ จำกัดเป็นผู้ถือหุ้น และหมายความรวมถึงบริษัทฯ ด้วย
  3. เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง บุคคลซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งกลุ่ม บริษัท จัสท์ คาร์ จำกัด มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงผู้สมัคร พนักงาน ลูกค้า ผู้ถือหุ้น คู่ค้า ผู้ให้บริการ ผู้ใช้บริการ และผู้มีส่วนได้เสียกับบริษัทฯ
  4. ผู้สมัคร หมายถึง บุคคลที่แจ้งความประสงค์เพื่อรับการพิจารณาเข้าเป็นพนักงาน/เข้าฝึกงาน หรือพิจารณาให้ทุนการศึกษา และหมายความรวมถึงนักศึกษาฝึกงาน
  5. พนักงาน หมายถึง ลูกจ้างของบริษัทฯ กลุ่มบริษัทฯ ในเครือ ตามกฎหมายแรงงาน
  6. ผู้ใช้บริการ หมายถึง ผู้สมัครสมาชิกหรือใช้บริการผ่านทางแอพพลิเคชั่น ของบริษัท ฯ และรวมถึงผู้สมัครสมาชิกหรือใช้บริการบนเว็บไซต์ https://www.justcar.co.th/
  7. ข้อมูล หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลซึ่งไม่ใช่ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลระบบ ข้อมูลที่ตั้ง คุกกี้
  8. ข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวข้องกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
  9. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพหรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด ตามพระราชบัญญัติข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
  10. ข้อมูลชีวภาพ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกิดจากการใช้เทคนิคหรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการนำลักษณะเด่นทางกายภาพหรือพฤติกรรมของบุคคลมาใช้ทำให้สามารถยืนยันตัวตนของบุคคลนั้นที่ไม่เหมือนกับบุคคลอื่นได้ เช่น ข้อมูลจำลองใบหน้า ข้อมูลจำลองม่านตา หรือข้อมูลจำลองลายนิ้วมือ
  11. ข้อมูลสาธารณะ หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้เปิดเผยต่อสาธารณชน เช่น ข้อมูลโปรไฟล์สื่อสังคมออนไลน์ เมื่อมีการใช้ข้อมูลและรหัสการเข้าระบบของสื่อสังคมออนไลน์ (social media credential) เช่น Facebook, Instagram, Twitter, Line และรูปแบบแพลตฟอร์มออนไลน์อื่นๆ เพื่อเชื่อมต่อหรือเข้า สู่บริการใดๆ ของกลุ่มบริษัทฯ เช่น บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ (social media account ID) สิ่งที่สนใจ (interest) รายการที่ชอบ (likes) และรายชื่อเพื่อนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถควบคุม การจัดเก็บความเป็นส่วนตัวนี้ผ่านการตั้งค่าบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่จัดทำไว้ให้โดยผู้ให้บริการสื่อสังคมออนไลน์ดังกล่าว
  12. การเก็บรวบรวมข้อมูล หมายถึง การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ ที่ชอบด้วยกฎหมาย
  13. การเปิดเผยข้อมูล หมายถึง การนำข้อมูลส่วนบุคคลไปเปิดเผย เผยแพร่ด้วยวิธีการ อย่างหนึ่งอย่างใด ผ่านช่องทางต่างๆ รวมถึงสื่อสังคมออนไลน์ทุกประเภท
  14. ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  15. ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หมายถึง ผู้ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วน บุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล โดยบุคคลดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
  16. การประมวลผลข้อมูล หมายถึง การดำเนินการใดๆ ซึ่งกระทำต่อข้อมูลส่วนบุคคลหรือชุดข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะโดยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ เช่น การเก็บ บันทึก จัดระบบจัดโครงสร้างเก็บรักษา เปลี่ยนแปลงหรือ ปรับเปลี่ยน การรับ พิจารณา ใช้ เปิดเผยด้วยการส่งต่อ เผยแพร่ หรือการกระทำอื่นใดซึ่งทำให้เกิดความพร้อมใช้งาน การจัดวางหรือผสมเข้าด้วยกัน การจำกัด การลบ หรือการทำลาย
  17. แอปพลิเคชัน หมายถึง โปรแกรม หรือชุดคำสั่งที่ใช้ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่และอุปกรณ์ต่อ พ่วงต่างๆ เพื่อให้ทำงานตามคำสั่ง และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้โดย แอปพลิเคชัน (Application) ต้อง มีสิ่งที่เรียกว่า ส่วนติดต่อกับผู้ใช้ (User Interface หรือ UI) เพื่อเป็นตัวกลางการใช้งานต่างๆ
  18. IP Address หมายถึง สัญลักษณ์เชิงหมายเลขที่กำหนดให้แก่อุปกรณ์แต่ละชนิด เช่น คอมพิวเตอร์ หรือ เครื่องพิมพ์ ที่มีส่วนร่วมอยู่ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์หนึ่งๆ ที่ใช้อินเตอร์เน็ตโพรโทคอลในการสื่อสาร
  19. คุกกี้ (Cookie) หมายถึง ข้อมูลขนาดเล็กที่เว็บไซต์ของบริษัทฯ ส่งไปยังคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เพื่อเก็บข้อมูลส่วนบุคคล โดยคุกกี้จะถูกส่งกลับไปที่เว็บไซต์ต้นทางในแต่ละครั้งที่กลับ เข้ามาดูที่เว็บไซต์ดังกล่าว
  20. Log หมายถึง ข้อมูลที่เกิดจากการใช้งานแอปพลิเคชัน ซึ่งรวมถึงแหล่งกำเนิด ต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่ ปริมาณ ระยะเวลา ชนิดของบริการ หรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานของแอปพลิเคชัน
  21. ข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ หมายถึง ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการจัดทำข้อมูลนิรนามแล้ว
  22. สำนักงาน หมายถึง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  23. ภัยคุกคามทางไซเบอร์ หมายถึง การกระทำหรือการดำเนินการใดๆที่มิชอบ โดยใช้คอมพิวเตอร์หรือระบบ คอมพิวเตอร์หรือโปรแกรมไม่พึงประสงค์ โดยมีความมุ่งหมายให้เกิดการประทุษร้ายต่อระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

   2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่จะมีการเก็บรวบรวม

  1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ กลุ่มบริษัทฯ หรือข้อมูลส่วนบุคคลจากบุคคลที่สามเช่น บริษัทตัวแทนจัดหางาน ร้านค้า หรือกลุ่มบริษัทที่ให้การบริการจัดเก็บรวบรวมข้อมูล คู่ค้า พันธมิตร เป็นต้น
  2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ เช่น ชื่อของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และที่อยู่ไอพี (IP Address) ผ่านการเข้าใช้อินเทอร์เน็ต วันที่และเวลาของการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ หน้าเพจที่เข้าเยี่ยมชมขณะเข้าเว็บไซต์ และที่อยู่ของเว็บไซต์ ซึ่งเชื่อมโยงโดยตรงกับเว็บไซต์ของกลุ่มบริษัทฯ รวมถึงพฤติกรรมการใช้งานแอปพลิเคชัน โดยจะมีการเก็บ Log การใช้งานจากบนแอปพลิเคชันของทาง กลุ่มบริษัทฯ
  3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากข้อมูลสาธารณะ (Public Records) และที่ไม่ใช่สาธารณะ (Non-Public Records) ที่กลุ่มบริษัทฯ มีสิทธิเก็บรวบรวมได้ตามกฎหมาย
  4. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากหน่วยงานภาครัฐ หรือหน่วยงานการกับดูแลที่ใช้อำนาจตามกฎหมาย
  5. ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ (User) บนแอปพลิเคชัน ของบริษัท ฯ โดยบริษัทฯ อาจรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้บริการ และการทำคำสั่งเกี่ยวกับบริการของผู้ใช้ เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล ช่องทางการติดต่อ รายละเอียดสินค้าที่สนใจ ภูมิลำเนา อายุ เลขบัตรประชาชน เป็นต้น
  6. ข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการ โดยบริษัทฯอาจจะเก็บรวบรวมอัตโนมัติ เวลาการใช้งาน (access time ) หมายเลขอุปกรณ์ (device ID) หมายเลขประจำเครื่อง (Unique identifier) เลขที่อยู่ไอพี (IP Address) หมายเลขเฉพาะเครือข่าย (mac address) ข้อมูลภาษา อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รุ่น ยี่ห้อ สถานที่ปฏิบัติการ ข้อมูลตำแหน่ง ผู้ให้บริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ระยะเวลาในการอยุ่ในระบบ
  7. ข้อมูลเกี่ยวกับพนักงานภายในบริษัทฯ หรือกลุ่มบริษัทฯ เช่น ชื่อ นาม สกุล ภูมิลำเนา สถานที่อยู่อาศัย ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน อายุ ประวัติส่วนตัวของคนในครอบครัว เบอร์โทรศัพท์ เลขบัตรประชาชน และรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว เป็นต้น

          การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจะต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้ เช่น ข้อมูลทั่วไปที่ไม่ต้องได้รับการยินยอมเป็นไปตามสัญญาหรือเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด เช่น การส่งข้อมูลการจ่ายค่าจ้างให้กรมสรรพากร หรือข้อมูลอ่อนไหวที่ไม่ต้องได้รับความยินยอม เช่น ข้อมูลสุขภาพในการป้องกันโรคติดต่อ เป็นต้น

   3. แนวทางปฏิบัติการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

             บริษัทฯ จะใช้ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ผู้สมัคร พนักงาน หรือผู้ใช้บริการ เพื่อดำเนินการให้บริการ ปฏิบัติตามข้อตกลงและข้อผูกพันตามสัญญาต่อคู่สัญญา คู่ค้า ตอบสนองคำร้องขอ การติดต่อสื่อสาร การดำเนินการให้บริการ และให้ความช่วยเหลือทางด้านเทคนิค รวมถึงเสนอโปรโมชั่น ข้อมูลข่าวสาร กิจกรรม และรายละเอียดอื่นๆ

             บริษัทฯ จะใช้ข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ผู้สมัคร พนักงาน หรือผู้ใช้บริการ เพื่อดำเนินการให้บริการ ปฏิบัติตามข้อตกลงและข้อผูกพันตามสัญญาต่อคู่สัญญา คู่ค้า ตอบสนองคำร้องขอ การติดต่อสื่อสาร การดำเนินการให้บริการ และให้ความช่วยเหลือทางด้านเทคนิค รวมถึงเสนอโปรโมชั่น ข้อมูลข่าวสาร กิจกรรม และรายละเอียดอื่นๆ

  1. เพื่อการให้บริการ ซื้อ ขาย รถยนต์ เป็นตัวคนกลางในการติดต่อประสานงานเพื่อให้เกิดการซื้อขายรถยนต์ การปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทฯ กลุ่มบริษัทฯ รวมถึงบริการหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่จะมีในอนาคต ตลอดจนการดูแล การบำรุงรักษา และการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการดังกล่าว
  2. เพื่อการดำเนินธุรกรรม นิติกรรม หรือสัญญาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัทฯ และกลุ่มบริษัทฯ
  3. เพื่อการบริหารความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มบริษัทฯ กับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
  4. เพื่อยืนยัน และ/หรือ ระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในการเข้าใช้บริการผ่านช่องทางต่างๆ หรือการติดต่อกับกลุ่มบริษัทฯ
  5. เพื่อการติดต่อสื่อสาร แจ้ง และ/หรือ รับข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ จากกลุ่มบริษัทฯ หรือการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นของกลุ่มบริษัทฯ
  6. เพื่อการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การตรวจสอบ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ การปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงการบริการ การวิเคราะห์การใช้งานด้านบริการ เป็นต้น
  7. เพื่อการดำเนินใดๆ ที่จำเป็นและเหมาะสมในการ
    • ตรวจสอบและป้องกันการกระทำที่ละเมิดหรืออาจจะละเมิดต่อกฎหมาย
    • ตอบสนองต่อคำขอจากหน่วยงานรัฐหรือรัฐบาล รวมถึงหน่วยงานของรัฐหรือรัฐบาลต่างประเทศที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอาศัยอยู่
    • บังคับใช้ข้อกำหนดในการให้บริการและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของกลุ่มบริษัทฯปกป้องการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ
    • ปกป้องสิทธิความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัยหรือทรัพย์สินของกลุ่มบริษัทฯ บุคลากร และเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือบุคคลอื่น เยียวยา ป้องกัน หรือจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
  8. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย การสืบสวนของเจ้าพนักงาน หรือหน่วยงานกำกับดูแลหรือเพื่อให้เป็นไปตามกฎ ข้อบังคับ หรือข้อผูกพันที่กฎหมายหรือภาครัฐกำหนด
  9. เพื่อทำการตลาดตามกลุ่มเป้าหมาย ทำการโฆษณาตามกลุ่มเป้าหาย และข้อเสนอส่งเสริมการขายตามช่องทางการสื่อสาร เสนอกิจกรรม โปรโมชั่น เป็นต้น

             ทั้งนี้ วัตถุประสงค์อื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ข้างต้น เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะได้รับการแจ้งเมื่อบริษัท และกลุ่มบริษัทฯ มีการขอเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล อนึ่ง ในการได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมานั้น กลุ่มบริษัทฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้วัตถุประสงค์เหล่านี้ เฉพาะเมื่อเข้าเงื่อนไขดังต่อไปนี้

  • เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด
  • ได้รับความยินยอมจากท่าน
  • เพื่อประโยชน์ของท่าน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น
  • เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ กลุ่มบริษัทฯ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่กลุ่มบริษัทฯ
  • เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น
  • เป็นไปเพื่อประโยชน์เกี่ยวกับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของท่านและผู้ใช้บริการอื่น
  • เพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล

   4. การใช้หรือเปิดเผยข้อมูล

             การใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ หรือตามความจำเป็นเพื่อประโยชน์ที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูล และต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลที่ให้ไว้ก่อน หรือขณะนั้นยกเว้นตามที่กฎหมายกำหนดให้ใช้ หรือเปิดเผยได้ เช่น ข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะโดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกายหรือสุขภาพ เป็นต้น

   5. การเปิดเผยและถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล

             บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก และ/หรือ องค์กร หรือหน่วยงานภายนอกเฉพาะในกรณี ดังต่อไปนี้

  1. กลุ่มบริษัทฯ ที่มีความเกี่ยวข้อง และกลุ่มบริษัทในเครือ กลุ่ม บริษัท จัสท์คาร์ จำกัด โดยจะแชร์หรือแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในกลุ่มบริษัทฯ เพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด การทำธุรกรรม นิติกรรม สัญญา หรือการบริการอื่นใดภายใต้ขอบวัตถุประสงค์ของกลุ่มบริษัทฯ
  2. คู่สัญญา ในกรณีที่กลุ่มบริษัทฯ ตกลงทำธุรกรรม นิติกรรม สัญญาเพื่อดำเนินการใดอันจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน จะกำหนดให้คู่สัญญากระทำการบางอย่างเพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และต้องห้ามมิให้คู่สัญญาใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์อื่นใดนอกจากเพื่อสนับสนุนธุรกรรมของ กลุ่มบริษัทฯ
  3. หน่วยงานรัฐบาล รัฐบาล หรือองค์กรอื่นตามกฎหมาย เพื่อเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย คำสั่ง คำร้องขอ เพื่อการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติตามกฎหมาย
  4. บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลที่เก็บรวบรวมให้กับผู้ค้าภายนอก ผู้ให้บริการ ผู้รับจ้างตามสัญญา หรือตัวแทนที่ปฏิบัติหน้าที่ในนามของบริษัทฯ หรือกลุ่มบริษัทฯ

   6. การโอน ถ่าย และ/หรือ ส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

             ในกรณีที่กลุ่มบริษัทฯ มีการโอน ถ่าย และ/หรือ ส่งข้อมูลไปยังต่างประเทศ กลุ่มบริษัทฯ จะกำหนดมาตรฐานในการทำข้อตกลง และ/หรือ สัญญาร่วมธุรกิจกับหน่วยงาน องค์กรที่จะได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้น มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นที่ยอมรับ และสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลนั้น จะได้รับการคุ้มครองอย่างปลอดภัย เช่น

  • กรณีที่กลุ่มบริษัทฯมีความจำเป็นในการจัดเก็บ และ/หรือ โอน ถ่าย ข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อการจัดเก็บ
  • การประมวลผลในระบบคลาวด์ (Cloud) บริษัทฯ และกลุ่มบริษัทฯ จะพิจารณาองค์กรที่มีมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยในระดับสากล และจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบการเข้ารหัส หรือวิธีการอื่นๆ ที่ไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ เป็นต้น

             ในการเชื่อมโยงข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลหรือหน่วยงานอื่น กลุ่มบริษัทฯ จะแสดงชื่อผู้เก็บรวบรวม บุคคลผู้มีสิทธิในข้อมูลที่ได้มีการเก็บรวบรวมอย่างชัดเจน เพื่อให้ท่านได้รับทราบ นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทฯ จะจัดทำบันทึกการเชื่อมโยงข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน

   7. ระยะเวลาจัดเก็บ

             บริษัทฯจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตราบเท่าที่จำเป็น โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์และความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการจัดเก็บรวบรวมและประมวลผล ซึ่งรวมไปถึงการปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายที่ใช้บังคับในเรื่องดังกล่าว โดยจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้หลังระยะเวลาที่สัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับบริษัทฯสิ้นผลบังคับระยะเวลาหนึ่ง และสอดคล้องตามระยะเวลาและอายุความของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยจะจัดเก็บไว้ในสถานที่จัดเก็บที่เหมาะสมตามประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้อาจมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปแม้จะพ้นกำหนดอายุความตามกฎหมายแล้วก็ตาม เช่น กรณีอยู่ระหว่างการดำเนินคดีหรือพิจารณาคดีตามกฎหมาย เป็นต้น

             บริษัทฯ กำหนดมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ซึ่งจะถูกนำไปใช้สื่อสารให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบและมีความเชื่อมั่นในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ดังนี้

  1. ต้องไม่ถ่ายโอนหรือจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในอุปกรณ์พกพาใดๆ โดยที่ไม่มีการป้องกันอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าอุปกรณ์นั้นจะเป็นของกลุ่มบริษัทฯหรือไม่ เช่น อุปกรณ์ต้องกำหนดให้มีการเข้ารหัส
  2. อิเล็กทรอนิกส์ส่วนบุคคลทั้งหมด ควรได้รับการเก็บไว้อย่างปลอดภัยด้วยรหัสผ่านและการเข้ารหัสข้อมูล
  3. สำเนาข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดพร้อมกับสำเนาอิเล็กทรอนิกส์ใดๆ ที่เก็บไว้ในสื่อบันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถถอดออกได้ ควรเก็บไว้อย่างปลอดภัยในกล่อง ตู้ หรือลิ้นชัก ที่สามารถล็อคได้
  4. ข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดที่จัดเก็บทางอิเล็กทรอนิกส์ ทางกลุ่มบริษัทฯจะทำการสำรองข้อมูลไว้นอกสถานที่ การสำรองข้อมูลทั้งหมดจะถูกเข้ารหัส

             ทั้งนี้ บริษัทฯจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นอย่างดีตามมาตราการป้องกันด้านการบริหารจัดการ(Administrative Safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (Technical Safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (Physical Safeguard) เพื่อรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม หมายความว่า มีการธำรงไว้ซึ่งความลับ (Confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (Integrity) และให้ข้อมูลอยู่ในลักษณะที่พร้อมใช้งาน (Availability) และเพื่อป้องกันการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทฯ ได้กำหนดนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้รับข้อมูลไปจากบริษัทฯ ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนอกวัตถุประสงค์ หรือโดยไม่มีอำนาจหรือโดยไม่ชอบ และบริษัทฯ ได้มีการปรับปรุงนโยบาย ระเบียบ และหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นระยะๆ ตามความจำเป็นและเหมาะสม

             นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้กำหนดให้พนักงาน บุคลากร ตัวแทน และผู้รับข้อมูลจากกลุ่มบริษัทฯ มีหน้าที่รักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นความลับและมีความปลอดภัยตามมาตรการที่กลุ่มบริษัทฯ กำหนด เมื่อต้องมีการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

   8. ภาพถ่ายและภาพเคลื่อนไหวทางกล้องวงจรปิด 

             บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย โอน และดำเนินการใดๆ ตลอดจนการบันทึกภาพ เสียง ถือครอง ปรับ เปลี่ยน แก้ไข ทำลาย ลบ กู้คืน รวม ทำสำเนา ส่ง จัดเก็บ แยก เปลี่ยน หรือเพิ่ม กับข้อมูลส่วนบุคคลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด และข้อมูลส่วนบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และบริษัทฯ หรือกลุ่มบริษัทฯ อาจส่ง โอน ใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่พนักงานภายใน กลุ่มบริษัทฯ รวมถึงบุคคลภายนอกเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย หน่วยงานภาครัฐ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

      1. เพื่อปกป้องสุขภาพและรักษาความปลอดภัยรวมถึงทรัพย์สิน
      2. เพื่อความปลอดภัยและป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับอาคาร สถานที่ทำงาน และทรัพย์สิน
      3. เพื่อช่วยเหลือในการระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นในกระบวนการทางวินัยหรือกระบวนการยุติเรื่องร้องเรียนภายในบริษัทฯ อย่างมีประสิทธิภาพและยุติธรรม
      4. เพื่อช่วยเหลือการสอบสวนหรือการพิจารณาที่เกี่ยวข้องกับการแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดของบุคลากรภายในบริษัทฯ

                ทั้งนี้กล้องวงจรปิดจะทำงานตลอด 24 ชั่วโมง และมีการบันทึกเสียง

   9. คุกกี้ (Cookies)

             คุกกี้ เป็นไฟล์ข้อมูลขนาดเล็กที่ได้จากการเชื่อมต่อระหว่างเว็บไซต์และคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ ไอแพด แท๊บเล็ต และเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ มีหน้าที่ในการจดจำข้อมูลที่สามารถบันทึกและเก็บรวบรวมได้ เช่นตำแหน่งที่อยู่ของผู้ใช้งาน ข้อมูลผู้ใช้งานที่สนใจ จดจำภาษาที่ใช้ โดยบริษัทฯ และกลุ่มบริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ในการจัดเก็บคุกกี้ ดังนี้

    1. เพื่อปรับปรุงและพัฒนาระบบความปลอดภัยของแอปพลิเคชั่น หรือเว็บไซต์ เพื่อสร้างมาตรฐานและการบริการที่ดีขึ้นกว่าเดิม
    2. เพื่อเก็บรวบรวมความชอบของผู้ใช้บริการ และให้บริการและเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความเหมาะสมกับผู้ใช้บริการ
    3. เพื่อป้องกันและรักษาความปลอดภัยของระบบซอฟแวร์บนแอปพลิเคชัน

             ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถควบคุมและมีสิทธิเลือกได้ว่าจะให้ความยินยอมหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากปิดการใช้คุกกี้ ท่านอาจจะไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการให้บริการของกลุ่มบริษัทฯ

   10. การแจ้งเตือน

             บริษัทฯ อาจมีการแจ้งเตือน อัพเดทข่าวสารและข้อมูลการพัฒนาระบบแอปพลิเคชั่น หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบาย ข้อมูลส่วนบุคคลไปยังท่านผ่านทางแอพพลิเคชั่น เว็บไซต์ อีเมล หรือด้วยวิธีการอื่นใด โดยผู้ใช้บริการสามารถปิดรับการแจ้งเตือนเหล่านี้ได้

   11. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยและความลับของข้อมูลส่วนบุคคล

             เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีความมั่นใจในการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ในการป้องกันความเสี่ยงอันอาจทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลถูกเข้าถึงโดยมิชอบ รั่วไหล ถูกเปลี่ยนแปลงแก้ไข สูญหาย บริษัทฯจึงได้สร้างความตระหนักด้านความมั่งคงปลอดภัยสารสนเทศ รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านการรักษาความปลอดภัยสารสนเทศที่เป็นที่ยอมรับและการบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ และเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

             บริษัทฯ มีมาตรการปกป้องความเป็นส่วนตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยการจำกัดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล จะกำหนดให้เฉพาะบุคคลที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว ซึ่งบุคคลที่บริษัทฯ อนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลนั้น จะต้องยึดมั่นและปฏิบัติตามมาตรการการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัดตลอดจนการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว โดยมีมาตรการป้องกันทั้งทางกายภาพและทางอิเล็คทรอนิกส์เป็นไปตามมาตรฐานการกำกับดูแลที่บังคับใช้เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

             เมื่อบริษัทฯ หรือกลุ่มบริษัทฯ ทำสัญญา หรือข้อตกลงกับบุคคลที่สาม จะกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล การรักษาข้อมูลที่เป็นความลับที่เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่ครอบครองจะมีความปลอดภัย

12. บริหารจัดการความเสี่ยงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

             บริษัทฯ กำหนดให้มีการประเมินความเสี่ยงการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อตรวจสอบความพร้อมและ ความถูกต้อง เพื่อให้แน่ใจว่า มีการบริหารความเสี่ยงในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอและเป็นไปตามกฎหมาย อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง โดยเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) เป็นผู้แนะนำและประสานงานให้แต่ละหน่วยงานให้แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการประเมินความเสี่ยงการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายในหน่วยงานของตน รวมถึงเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) ต้องติดตามและรายงานผลด้านความเสี่ยงต่อคณะกรรมการของแต่ละบริษัท ภายในกลุ่มบริษัทฯ

   13. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคค

             เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิตามกฎหมายที่สามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดข้อกำหนดกฎหมาย และนโยบายที่กำหนดไว้ในขณะนี้ หรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทฯกำหนดขึ้น เช่น

    1. สิทธิขอถอนความยินยอม
      หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมให้บริษัทฯ เก็บรวบรวมใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีสิทธิที่จะถอนความยินยอมที่ได้ให้ความยินยอมไว้เมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลอยู่กับบริษัทฯ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอยู่
    2. สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล
      เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ และขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้ รวมถึงขอให้บริษัทฯ เปิดเผยว่าข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้มาอย่างไรโดยปราศจากความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล
    3. สิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคล
      ในกรณีที่บริษัทฯ ได้ทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค
    4. สิทธิขอคัดค้าน
      เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอคัดค้านในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ทำขึ้นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลอื่น หรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์ หากยื่นคัดค้าน บริษัทฯ จะยังคงดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อไปเฉพาะที่บริษัทฯ สามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐาน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยันการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมาย ตามแต่ละกรณี
    5. สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล
      เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวได้ หากเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเห็นว่า บริษัทฯ หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว
    6. สิทธิขอระงับการใช้ข้อมูล
      เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทฯ หมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่ขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้แทน
    7. สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล
      เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
    8. สิทธิร้องเรียน
      เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจ หากเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
    9. สิทธิได้รับการแจ้งให้ทราบ
      เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล มีสิทธิได้รับแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับรายละเอียดและวัตถุประสงค์ในการเก็บ รวบรวมข้อมูล การใช้ หรือการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้เจ้าของข้อมูลทราบก่อนหรือขณะเก็บ รวบรวมข้อมูล โดยทราบรายละเอียดวิธีการจัดเก็บข้อมูล ระยะเวลาในการจัดเก็บ สถานที่จัดเก็บ และ วิธีการติดต่อผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

   14. การใช้สิทธิ

             การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นสามารถทำได้โดยกรอกแบบฟอร์มคำร้องขอใช้สิทธิและยื่นคำร้องต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ อย่างไรก็ตามการใช้สิทธิของท่านอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัท อาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น โดยหากบริษัท ปฏิเสธคำขอข้างต้น บริษัท จะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบด้วย

             ระยะเวลาดำเนินการในการใช้สิทธิประเภทต่าง ๆ

             อนึ่ง การลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในรูปแบบที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ หรือการยกเลิกความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถทำได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมายและสัญญาที่ทำไว้กับบริษัท เท่านั้น ทั้งนี้ การใช้สิทธิดังกล่าวอาจจะส่งผลต่อกรณีการปฏิบัติตามสัญญาที่ทำไว้กับบริษัท หรือกรณีการให้บริการอื่น ๆ เนื่องจากจะไม่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ จึงอาจเกิดข้อจำกัดในการให้บริการในบางส่วนที่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคล และอาจทำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่ได้รับสิทธิประโยชน์การบริการ และข่าวสารจากบริษัทต่อไป

15. ผลบังคับใช้นโยบาย

             นโยบายฉบับนี้กำหนดให้มีผลบังคับใช้กับผู้ใช้บริการ และรวมถึงพนักงาน ผู้สมัคร นักศึกษาฝึกงานทุกคน โดยจัดทำเป็นประกาศ/บันทึก และ จัดเก็บอย่างเหมาะสม หรือใช้วิธีการประกาศผ่านทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน สำหรับการสื่อสารภายนอกให้บุคคลทั่วไป ผู้ใช้บริการ ลูกค้า คู่ค้า พันธมิตร เป็นต้น

16. ช่องทางการติดต่อสื่อสาร

หากมีข้อสงสัยใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อสอบถามผ่านทางช่องทางที่กาหนดไว้ ดังนี้

บริษัท จัสท์ คาร์ จำกัด

เลขที่​: 12/555 อาคารส.ทาวเวอร์-ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ ชั้น 10 ถนนบางนา-ตราด ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
Email: [email protected]

หรือ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO)

Email: [email protected]

17. การเฝ้าติดตาม ทบทวน และ ปรับปรุงนโยบาย

             นโยบายฉบับนี้กำหนดให้มีการเฝ้าติดตาม และ กำหนดตัวชี้วัดเพื่อวัดประสิทธิภาพของกระบวนการปฏิบัติงานเพี่อให้สอดคล้องตามนโยบายนี้ โดยจะต้องมีการกำหนดแผนให้มีการวัดผลเป็นประจำเสมอ และ มีการทบทวนนโยบายฉบับนี้ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และในกรณีที่มีเหตุจำเป็น กลุ่มบริษัทฯ อาจทำการเปลี่ยนแปลงแก้ไขนโยบายความเป็นข้อมูลส่วนบุคคลนี้เป็นครั้งคราว เพื่อพัฒนาและปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น และจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ผู้สมัคร พนักงาน ผู้ใช้ ทราบในกรณีที่มีการแก้ไขดังกล่าว โดยจะขอความยินยอมจากท่านอีกครั้ง

Scroll to Top